เครื่องมือ AI ตัวตึง 2024 ย่นเวลาออกแบบสถาปัตย์ 10 เท่า

ในยุค AI ครองเมือง ใครเชี่ยวชาญเรื่องนี้ย่อมถือไพ่เหนือกว่า

ย้อนไปสมัยไม่มีคอมพิวเตอร์พกพา การสร้างสรรค์และนำเสนองานสถาปัตย์ต้องอาศัยอุปกรณ์คู่ใจมากมาย เชื่อว่าซีเนียร์ทุกคนคงจำภาพวันที่เดินทางไปเรียนหรือทำงานพร้อมกระเป๋าใบโตขึ้นใจ

ตัดภาพมาตอนนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลได้พัฒนาเข้าสู่ยุค Human-AI Collaboration ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ก้าวล้ำจนเพิ่มประสิทธิผลการทำงานให้สถาปนิกได้อีกมาก

วันนี้เราจะมาทบทวนรายชื่อ AI Tool ที่รองรับงานออกแบบอาคารอย่างรวดเร็วแม่นยำ สามารถทุ่นแรง ย่นเวลา หรือแม้แต่ลดต้นทุนบางกระบวนการ เพื่อให้สถาปนิกดึงศักยภาพไปใช้กับงานที่กลไก AI ยังไม่ครอบคลุมได้เต็มที่กว่าเดิม บอกเลยว่าเริ่มชำนาญเมื่อไหร่ ชีวิตจะง่ายและได้เปรียบทางธุรกิจขึ้นแน่นอน

 
  1. MAKET AI

“Generative Design for Residential Planning”


หนึ่งในกระบวนการทำงานที่ AI เข้ามาแบ่งเบาภาระได้มากคือ Schematic Design ซึ่งสถาปนิกต้องนำข้อมูลที่ลูกค้าอนุมัติมาขึ้นแบบร่าง กำหนดคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ (Preliminary Concept) และวางแผนพื้นที่ใช้สอย (Residential Planning) เบื้องต้น

เครื่องมือ Maket AI ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยจัดการขั้นตอนเหล่านี้ โดยตัว Algorithm สามารถประมวล Text Prompt ที่คนเขียน และเสนอทางเลือกในการออกแบบที่หลากหลาย ทำได้ตั้งแต่งานสร้างผังอาคาร วางผังชั้น (Floor Plan) จัดโซน (Zoning) ไปจนถึงการแนะนำวัสดุ ประมาณค่าใช้จ่าย และเรนเดอร์ภาพ 3D ตามสเป็คโครงการและกฎหมายควบคุมอาคาร สถาปนิกจะได้เซฟเวลาและพลังไปต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์หรือบริหารธุรกิจ ส่วนฝั่งลูกค้าก็มีโอกาสเห็นชิ้นงานเยอะขึ้นเช่นกัน

 

2. ARCHITEChTURES

“Optimal Residential Developments in Minutes”


แพลตฟอร์มออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Cloud Computing ที่ปฏิวัติเทคโนโลยีวางแผนที่อยู่อาศัย เชื่อมศักยภาพหุ่นยนต์กับมนุษย์ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ และย่นเวลาทำแบบอาคารที่นานร่วมเดือนให้เหลือเพียง 10 นาทีเท่านั้น

หลังผู้ใช้ป้อนข้อมูลหลักด้านต่างๆ เช่น ขนาด ประเภทวัสดุ รูปแบบ งบประมาณ ราคา ARCHITEChTURES จะประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Analysis) ก่อนสร้างแบบจำลองอาคาร (BIM : Building Information Modeling) ที่ผสานจุดขายด้านดีไซน์และฟังก์ชั่น พร้อมข้อมูลสิ่งก่อสร้างต่อหน่วยมาให้ นอกจากนี้ ยังสามารถคำนวณหาแนวทางดำเนินการ จุดคุ้มทุน รวมถึงปริมาณวัสดุและและพลังงานที่ใช้ เพิ่มความคล่องตัวให้การตัดสินใจอย่างมาก

 

3. SKETCH2RENDER

“Speed Up Your Architecture Process and Create Stunning Renders”


กว่าสถาปนิกจะขึ้นโมเดล 3D ได้ก็ปวดหัวใช่เล่น แถมต้องเจอค่าเรนเดอร์ที่ซับซ้อน ขั้นตอนเรนเดอร์งานเป็นชั่วโมงๆ การมาของระบบ AI Renderer ที่ผลิตโมเดลสถาปัตยกรรมจากภาพสเก็ตช์จึงเหมือนอัจฉริยะมาโปรด

โปรแกรม Sketch2Render ถูกออกแบบมาเพื่อติดสปีดการแปลงไอเดียสถาปนิกให้เป็นรูปเป็นร่าง เพียงแค่อัพโหลดภาพสเก็ตช์หรือ Drawing สถาปัตยกรรม แล้ว AI จะทำการประมวลผล ก่อนจะเรนเดอร์ภาพที่ร่างไว้ให้กลายเป็นโมเดล 3D ที่ทั้งสวยงาม สมจริง ถ่ายทอดรายละเอียดและองค์ประกอบได้ครบถ้วนในพริบตา แม้แต่คนมีประสบการณ์ปั้นโมเดล 3D ไม่เท่าไหร่ก็สามารถใช้งานแล้วนำไปเสนอลูกค้าต่อได้ง่ายดาย

 

4. DELVE

“Empowers Real Estate Teams to Design Better, Faster, with Less Risk”


แวดวงสถาปนิกมีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบของโลกร้อน งานดีไซน์ Sustainable Real Estate ที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวจึงกลายเป็นตัวแปรขับเคลื่อนโครงการอสังหาเจ้าใหญ่โดยปริยาย

Delve เน้นใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Machine Learning รังสรรค์งานยักษ์ นักออกแบบสามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างข้อจำกัดของทำเลที่ตั้ง ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม ปริมาณแสงแดด ผลกระทบของอาคาร ร่วมกับงบประมาณและรายละเอียดทางวิศวกรรมบนแพลตฟอร์มเดียว โดยระบบจะย่อยและวิเคราะห์ข้อมูลทุกอย่างที่ตั้งค่าไว้ให้ ก่อนเสนอผังโครงการอสังหาที่ตอบโจทย์บริบทชีวิตและชุมชนรอบข้างหลายร้อยไอเดียในไม่กี่นาที

Previous
Previous

HOW TO สกรีนลูกค้า "คิดไม่จบ งบไม่พอ" ออกจากวงโคจร

Next
Next

7 Skills ที่นักออกแบบตัวท็อปต้องมี